วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

" เสี่ยว" กับความเข้าใจผิดของหลายๆคน





การผูกเสี่ยว หรือพิธีผูกเสี่ยว จัดเป็นประเพณีเก่าแก่

และดีงามพิธีหนึ่งของชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้ประพฤติปฎิบัติ

สืบทอดกันมาเป็นเวลานานนับศตวรรษ  
หลายคงสงสัยว่า “พิธีผูกเสี่ยว” นี้มีความสำคัญอย่างไร

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจถึงความหมายของคำว่า“เสี่ยว”เสียก่อน

คำว่า “เสี่ยว” เป็นภาษาอีสานแท้ๆ ซึ่งชาวอีสานทุกคนต่างมีความซาบซึ้งกับคำๆนี้

เป็นอย่างดี และเป็นคำที่มีความหมายไปในทางที่ดีงามอีกด้วย
แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ชาวภาคอื่นๆ ยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า เสี่ยว

และนำไปใช้ในทางที่ผิดๆ เช่น เข้าใจว่าเสี่ยว หมายถึงพวกบ้านนอกคอกนา

พวกโง่เง่าเต่าตุ่น เป็นต้น แถมใช้คำพูดในเชิงดูหมิ่น ดูแคลน หนักไปกว่านั้น

คือเติมคำนำหน้าลงไปอีกว่า “บักเสี่ยว” ซึ่งถ้าพูดถึงบักเสี่ยวแล้วจะหมายถึง

“พวกเซ่อๆซ่าๆ” ที่มาจากอีสาน

แต่อันที่จริงแล้วคำว่า “เสี่ยว” เป็นคำที่มีความหมายในทางที่ดีงาม

เพราะหมายถึง มิตรแท้ เพื่อนแท้หรือเพื่อนตาย ซึ่งมีความซื่อสัตย์ ความจริงใจต่อกัน

มีความผูกพันทางด้านจิตใจกันอย่างจริงใจ และเต็มใจ และไม่มีอำนาจใดๆ

จะมาพรากให้จากกันได้แม้แต่ความตาย ทั้งนี้ความผูกพันของเสี่ยวนี้ไม่มีเฉพาะกับเสี่ยวเท่านั้น

หากมีความหมายผูกพันเชื่อมโยงไปถึงครอบครัว ญาติ พี่น้อง

และหมู่บ้านของเสี่ยวด้วยการผูกเสี่ยว ก็คือ การนำบุคคลสองคนมาผูกพันเป็นมิตรกัน

หลักเกณฑ์ในการเลือกคู่เสี่ยวนั้นปกติแล้วมักจะเลือกเพศเดียวกัน

ชายก็มีคู่เสี่ยวเป็นชาย หญิงก็มีคู่เสี่ยวเป็นหญิง
นอกจากนี้คู่เสี่ยว

ต้องมีลักษณะ ท่าทาง รูปร่าง หน้าตา อายุ อารมณ์ จิตใจ บุคลิกภาพ ทัศนคติที่คล้ายคลึงกัน

หรือเหมือนกันอีกด้วย

***ถ้าจะกล่าวถึงที่มาของคำว่า "เสี่ยว" แล้วคงต้องย้อนกลับไปถึงยุคสมัยสามก๊กกันเลยทีเดียว
เพราะคนเชื้อชาติลาวนั้นอพยพมาจาก "อาณาจักรอ้ายลาว" ซึ่งอยู่บริเวณมลฑลเสฉวนในประเทศจีน
ซึ่งมลฑลเสฉวนนั้นก็เป็นบริเวณที่เป็นต้นกำเนิดของคนเชื้อชาติฮั่น(จีนแท้) เคยมีนักมานุษยวิทยาเสนอแนวคิดว่าคนเชื้อชาติลาวนั้นเป็นบรรพบุรุษของคนเชื้อชาติฮั่นด้วยซ้ำไป ถ้าใครเคยไปเที่ยวมลฑลเสฉวนแล้วจะรู้ว่า คนเสฉวนซึ่งเป็นชาวฮั่นแท้นั้นนิยมทานอาหารรสจัดมากๆ โดยเฉพาะพริกตากแห้ง นั้นมักจะนำมาผสมกับอาหารแทบทุกชนิดซึ่งถ้าไปศึกษากันดีๆแล้ว วัฒนธรรมของชาวฮั่นนั้นมีหลายๆอย่างที่เหมือนกับวัฒนธรรมลาวและวัฒนธรรมอิสานมาก และคำว่า "เสี่ยว" ก็เป็น "ภาษาฮั่น" หรือที่เราเรียกว่า
"ภาษาแมนดาริน" ปัจจุบันภาษาแมนดารินได้กลายมาเป็นภาษาจีนกลางแล้ว แต่ก็ยังมีคำว่า "เสี่ยว(xiao)" ซึ่งหมายถึง เพื่อนที่สนิทกันมากๆ

***โดยคำว่า "เสี่ยว" ในภาษาลาว ภาษาอิสาน ภาษาเหนือ และภาษาแมนดาริน(จีนกลาง)นั้นมีความหมายเหมือนกัน คือ หมายถึงเพื่อนรัก ***ซึ่งชาวฮั่นเขาจะใช้เรียกเพื่อนสนิทกัน อย่างเช่นว่า ถ้าเรามีเพื่อนสนิทมากคนหนึ่งชื่อว่า "จวง" (zhuang) เราจะเรียกเขาว่า "เสี่ยวจวง" (Xiao Zhuang) โดยใช้คำว่า เสี่ยว แล้วตามมาด้วยชื่อของเพื่อนเรา

***ขอเสริมอีกนิดหนึ่งคือ ชาวฮั่นเขาเชื่อว่าคนที่เป็นชาวฮั่นแท้ จะไม่มี "เล็บหก" หรือ "หกเล็บ"
ซึ่งเล็บหกนี้มันจะมีอยู่บริเวณนิ้วก้อยของเท้าเรา ก็ลองสังเกตดูว่าเท้าเรานิ้วก้อยมันมีเล็บเล็กๆซ่อนอยู่หรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าเราไม่ใช่ชาวฮั่นแท้ๆ ซึ่งคนแต้จิ๋ว คนฮกเกี้ยน คนกวางตุ้ง นั้นชาวฮั่นเขาก็บอกว่าพวกนี้ไม่ใช่ชาวฮั่น(จีนแท้) โดยสังเกตได้จากเล็บหกของพวกเขานั่นแหละ คนแต้จิ๋วจะมีเล็บหกเยอะมาก


***ส่วนเรานั้นเป็นคนเชื้อสายลาวแท้ๆ พอไปดูนิ้วก้อยเท้าของพ่อแม่ พี่น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย แล้วปรากฎว่าไม่มีใครมีเล็บหกเลย บางทีเราอาจจะเป็นบรรพบุรุษของชาวฮั่นก็ได้ เพราะเราผิวดี ตาเล็ก แต่ว่ามีตาสองชั้นนะ ตอนนั้นไปเที่ยวเสฉวนแล้ว เฮ้ย ! ทำไมคนเสฉวนหน้าตาไม่เหมือนเจ๊กบ้านเราอ่ะ พอมาอ่านประวัติศาสตร์แล้วภูมิใจ ว่าเราเชื้อสายลาวก็มาจากเสฉวนนี่เอง
*** ดังนั้นใครก็ตามที่มีเชื้อสายลาว แล้วถูกคนอื่นพูดว่าเรา "เสี่ยว" "ลาว" แล้วไม่ต้องโกรธเขานะ เพราะพวกเราเป็นลูกหลานของคนใน "อาณาจักรอ้ายลาว" ซึ่งตั้งอยู่บริเวณมลฑลเสฉวนปัจจุบัน บางทีพวกเราอาจจะเป็นบรรพบุรุษของชาวฮั่นเหมือนกับที่เขาบอกก็ได้นะ ^^

คำคมเสี่ยวๆ



"The secret of success in life is to be ready for your opportunity when it comes."
- - Benjamin Disraeli - -
ความลับของความสำเร็จคือเตรียมตัวให้พร้อมอยู่ เสมอสำหรับโอกาสที่มาถึง




"You get the best out of others when you give the best of yourself."
- - Harvey Firestone - -
"คุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดของคนอื่น เมื่อคุณได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดของคุณไป"




"If you always do what interests you, then at least one person is pleased."
- - Katherine Hepburn - -
ถ้าคุณลงมือทำในสิ่งที่คุณสนใจอยู่ เสมอ อย่างน้อยจะมีคนคนหนึ่งที่พอใจ




"Only two things are infinite, the universe and human stupidity,
and I'm not sure about the former."
- - Albert Einstein - -
มีเพียงสอง สิ่งเท่านั้นที่หาที่สิ้นสุดไม่ได้ สิ่งหนึ่งคือจักรวาล และอีกสิ่งคือความโง่เขลาของมนุษย์ ทว่าฉันไม่แน่ใจว่าจักรวาลจะเป็นเช่นนั้น




"Life remains the same until the pain of remaining the same
becomes greater than the pain of change."
- - Anonymous - -
ชีวิตจะ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งความเจ็บปวดจากความนิ่งเฉย จะมากกว่าความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลง




"He who loses money, loses much; He who loses a friend, loses more; He who loses faith, loses all."
- - Anonymous - -
เขา..ผู้ สูญสิ้นทรัพย์สินไป
เขา..สูญเสียมากเหลือเกิน
เขา..ผู้สูญสิ้น เพื่อนไป
เขา..สูญเสียมากกว่า
เขา..ผู้สูญสิ้นความศรัทธา
เขา..ผู้ นั้น.. สูญเสียยิ่งกว่าใครๆ




"The determined man finds the way, the other finds an excuse or alibi."
- - Anonymous - -
ผู้ที่แน่วแน่และมุ่งมั่นจะหาหนทางแก้ปัญหา ในขณะที่คนอื่นจะหาหนทางแก้ตัว




"The only thing in life achieved without effort is failure."
- - Anonymous - -
มี เพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคือ ความล้มเหลว




"Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them."
- - Anonymous - -
บาง คนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ




"No bird soars too high if he soars with his own wings."
- - William Blake - -
ไม่มีนกตัวใดบินสูงเกินไปถ้ามันบินด้วยปีก ของมันเอง




"Obstacles are those frightful things you see
when you take your eyes off your goals."
- - Anonymous - -
อุปสรรค คือสิ่งที่น่าตกใจก็ต่อเมื่อคุณไม่ได้มองไปที่จุดหมายปลายทาง




"Advice is like snow; The softer it falls the longer it dwells upon,
and the deeper it sinks into, the mind."
- - Samuel Taylor Coleridge - -
คำแนะนำเหมือนหิมะที่โปรยปรายลงมา ยิ่งบางเบาเพียงใดก็ยิ่งแตะเพียงเปลือกนอก และยิ่งหนักหนาเท่าใดก็ยิ่งลึกถึงความรู้สึกเท่านั้น




"There is nothing either good or bad but thinking makes it so."
- - W.Shakespeare - -
ไม่มีสิ่งใดๆในโลกที่ดีหรือเลว มีแต่ความคิดของเราเท่านั้นที่ทำให้เกิดความดีและความเลว




"Great minds discuss ideas; Average minds discuss events;
Small minds discuss people."
- - Anonymous - -
จิตใจที่ยิ่ง ใหญ่วิพากย์วิจารณ์ความคิด จิตใจสามัญวิพากวิจารณ์เหตุการณ์ แต่จิตใจที่ต่ำต้อยนั้นวิจารณ์เพียงผู้คน




"Life is a big canvas and you should throw all the paint you can on it."
- - D.Kaye - -
ชีวิตเหมือนภาพเขียนขนาดใหญ่และคุณควรจะใช้สีทั้ง หมดที่คุณมีสร้างสรรค์มันขึ้นมา




"Forgive your enemies, but never forget their names."
- - J.F.Kennedy - -
จง ยกโทษให้แก่ศัตรูของคุณ แต่อย่าลืมชื่อของพวกเขาเป็นอันขาด




"The only man who never makes mistakes is the man who never does anything."
- - T.Roosevelt - -
คนที่ไม่เคยทำผิดคือคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย

ความเหงาเกิดจากจิตใจและมีวิธีการจัดการกับความเหงา


ความเหงา เป็นสิ่งที่เกิดจากจิตใจของเรา และเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่อยู่คนเดียว เวลาทำงาน เวลาอยู่ในสถานที่วุ่นวาย ก็สามารถเหงาได้เช่นกัน
เหงา คำนี้หลายคนเคยได้สัมผัสและและบางคนอาจรู้จักเป็นอย่างดี คนเราย่อมมีอารมณ์เหงาผ่านเข้ามาในชีวิต ส่วนความบ่อยมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละบุคคล แต่เมื่อความเหงาเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องจัดการกับความเหงานั้น ไม่ให้มันทำร้ายจิตใจเราให้เศร้าหมอง ไม่สดใส
วิธีการจัดการกับความเหงา
1. ความเหงาเกิดจากจิตใจ ดังนั้นเราก็ควรแก้ไขที่จิตใจ เมื่อเราเอาใจไปผูกติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มันไม่ใช่ของเรา มันก็จะทำให้เราเหงาได้ การแก้ไขที่จิตใจคือการปล่อยวางอย่ายึดติดกับสิ่งนั้น
2. เพื่อน การมีเพื่อนคือสิ่งที่สามารถคลายเหงาได้ดีที่สุด โทรศัพท์ไปหาเพื่อนบ้าง นัดเพื่อนออกมาเที่ยวบ้าง แล้วความเหงานั้นจะหายไปจากใจเรา เพื่อนที่ดียินดีและพร้อมที่จะรับฟังปัญหาของเราเสมอ หรือบางคนอาจมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนก็หายเหงาได้เหมือนกัน
3. มนุษยสัมพันธ์ การมีมนุษยสัมพันธ์ กับบุคคลรอบข้าง แม้ว่าจะไม่สนิท หรือไม่รู้จักกันเลย เราสามารถชวนเค้าพูดคุยเรื่องต่างๆทั่วไปได้ บางทีเราอาจจะได้เพื่อนเพิ่มขึ้นก็ได้ และความเหงานั้นยังหายไปอีกด้วย
4. กิจกรรม การหากิจกรรมต่างๆทำไม่ว่าจะเป็น ออกกำลังกาย งานอดิเรก การเดินเล่น เล่นดนตรี หรือนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตใจผ่องใส ไม่นึกถึงเรื่องที่ยึดติดก็จะทำให้ความเหงานั้นหายไปได้
5. ทัศนคติ คิดบวกชีวิตก็บวก มองโลกในแง่ดีทุกๆคนย่อมมีความรู้สึกเหงาได้เหมือนกัน เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกใบนี้ ยังมีผู้คนอีกมากมาย และชีวิตนี้จะอยู่ไปได้นานแค่ไหน ดีแล้วหรือ ที่เราจะเอาเวลาที่มีมาใช้กับความเหงา เอาเวลาไปทำอย่างอื่นเพื่อให้ชีวิตมีความสุขมากกว่านี้ดีกว่า
ความเหงาเกิดจากจิตใจ การจะหยุดความเหงาได้ก็ต้องหยุดที่จิตใจ เราต้องมองหาสาเหตุที่ทำให้เหงาและแก้ไขที่ตรงนั้น ถ้าเหงาเพราะไม่มีคนคุยด้วย ก็โทรศัพท์ไปหาเพื่อนคุย ถ้าไม่มีคนรับโทรศัพท์ก็ออกไปพบปะผู้คนข้างนอกและลองชวนเค้าคุย เพียงเท่านี้เราก็สามารถคลายความเหงาได้

Heart to Heart แก้เผ็ดได้น่ารักมากจ้า^^